17473320

กระจกมีกี่ชนิดและคุณสมบัติของแต่ละอย่าง ปี 2023

หมวดหมู่สินค้า: A2 กระจกอลูมิเนียม

30 มีนาคม 2566

ผู้ชม 149 ผู้ชม

กระจกอลูมิเนียม ประตูกระจกบานเลื่อนราคา หน้าต่างกระจกบานเลื่อนราคาถูก
ร้านกระจกอลูมิเนียม  ราคาติดตั้งกระจกอลูมิเนียมต่อตารางเมตร

ติดตั้งกระจกอลูมิเนียม
กระจกอลูมิเนียมราคา
ราคากระจกอลูมิเนียม
กั้นห้องกระจกอลูมิเนียม
ราคากระจกอลูมิเนียมต่อตารางเมตร
ร้านกระจกอลูมิเนียม
ร้านกระจกอลูมิเนียมใกล้ฉัน
ร้านขายกระจกอลูมิเนียมใกล้ฉัน
ร้านติดตั้งกระจกอลูมิเนียม
ร้านทําประตูกระจก
ร้านทํากระจกอลูมิเนียม
ร้านขายกระจกอลูมิเนียม
 ผลงานช่างกระจกของเรา

                     ติดต่อสอบถาม



 

 
1. กระจกโฟลต (Float Glass)
เป็นกระจกมาตรฐาน ใช้ในการประกอบเป็นประตู หน้าต่างอลูมิเนียม แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
1.1 กระจกโฟลตใส
เป็นกระจกที่เกิดจากการหลอมแร่ให้เป็นของเหลว แล้วไหลลอยไปบนผิวดีบุกหลอมเหลว 
หลังจากนั้นปล่อยให้เย็นตัวลง ทำให้กระจกมีผิวเรียบทั้งสองด้าน สามารถมองผ่านได้ชัดเจน และให้ภาพสะท้อนสมบูรณ์
มีความแข็งแรงน้อย มีความใสสว่างมาก มองเห็นได้จากภายนอก กระจกประเภทนี้จึงเหมาะจะใช้เป็นกระจกภายในคอนโดมากกว่าภายนอก
 
1.2 กระจกโฟลตตัดแสง
เป็นกระจกโฟลตใสที่นำมาเติมโลหะเพิ่ม ทำให้กลายเป็นสี เช่น สีชา สีฟ้า สีเขียว เป็นต้น 
เนื้อกระจกที่ทำการเติมโลหะเข้าไปจึงทำหน้าที่ดูดความร้อน เป็นตัวช่วยกรองแสงและกันความร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง 
กระจกประเภทนี้จึงเหมาะจะใช้เป็นกระจกภายนอก เพื่อช่วยลดความร้อน แถมยังทำให้แสงสว่างดูนุ่มนวลสบายตามากยิ่งขึ้น 
ส่วนข้อแนะนำในการติดตั้งไม่ควรให้กระจกโดนลมจากเครื่องปรับอากาศโดยตรงจะทำให้กระจกสูญเสียพลังงาน 
นอกจากนี้ไม่ควรติดม่านทึบ หรือวางขอใกล้กระจกมากเกินไป เพราะกระจกจะไท่สามารถคายความร้อน จนเป็นสาเหตุทำให้กระจกแตกร้าวได้ 
 
กระจกอบความร้อน (Heat Treated Glass)
กระจกอบความร้อนหรือกระจกสีที่นำไปผ่านกระบวนการปรับแต่งคุณภาพของเนื้อกระจก 
เพื่อให้มีความเข็งแกร่งมากขึ้น หรือรับ แรงกระทำจากแรงภายนอกได้มากขึ้น แบ่งออกเป็น 2 ชนิดดังนี้
1) กระจกนิรภัยเทมเปอร์(Tempered Glass)
กระจกนิรภัยเทมเปอร์ เป็นการนำกระจกไปผ่านกระบวนการเทมเปอริง (Tempering) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง 
โดยใช้หลักการเดียว กับการทำคอนกรีตอัดแรง คือสร้างให้เกิดชั้นของแรงอัดขึ้นที่ผิวแก้วเพื่อตต้านแรงจากภายนอก 
 
วิธีการนี้ทำได้โดยการให้ความร้อนกับกระจกที่อุณหภูมิสูงกว่าจุดอ่อนตัวของแก้วเล็กน้อยที่ประมาณ 650-700องศาเซลเซียส 
และทำให้ผิวกระจกเกิดความเย็นตัวอย่างรวดเร็ว โดยใช้ลมเย็นเป่า ผลของความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างผิวนอก
กับส่วนกลางของแผ่นกระจกจะทำให้เกิดชั้นของแรงอัดขึ้นที่ผิวของกระจกทั้ง 2 ด้าน
โดยจะประกบชั้นส่วนกลางเหมือนลักษณะแซนวิช และชั้นที่ผิวนี้ จะต้านแรงจากภาย
นอกทำให้กระจกที่ผ่านกระบวนการเทมเปอริงแล้วมีความแข็งแรงขึ้นประมาน 4 เท่า
 
คุณสมบัติ
1)ค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้หักงอ (Bending Strenth) เมื่อเปรียบเทียบกระจกธรรมดากับกระจกนิรภัยเทมเปอร์ที่
มีความหนา 5 มิลลิเมตร กระจกธรรมดามีค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้กระจกหักงอ 500-650กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร 
ในกระจกนิรภัยเทมเปอร์มีค่าสูงถึง1,500 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร
 
2)การต้านทานน้ำหนัก (Loading Resistance) คือความต้านทานต่อแรงดันและแรงกระแทกโดยแบ่งออกเป็น
-การด้านทานน้ำหนักหรือสถิติ (Static Load Resistance) คือแรงที่มากระทบกระจก กระจกนิภัยเทมเปอร์สามารถทนต่อแรง
กระทบ ได้มากกว่ากระจกธรรมดาที่มีความหนาเดียวกันประมาณ 3-5 เท่า
-การต้านทานน้ำหนักกระแทก (Impact Load Resistance) คือความทนทานของกระจกต่อแรงกระแทกโดยทั่วไป
กระจกนิภัยเทมเปอร์ สามารถรับแรงกระแทกได้ดีได้ดีกว่ากระจกธรรมดาประมาณ 4 เท่า
 
3)ความปลอดภัยคือ การลดอันตรายที่จะเกิดจากการโดนกระจกบาด เพราะการแตกของกระจกนิภัย จะแตกออกเป็นเม็ดเล็กๆและมีความคมน้อย
 
4)การต้านทานความร้อน (Heat Resistance) คือความทนทานของกระจกต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิแบบทันทีทันใด
จากการทดสอบความสามารถในการต้านทานความร้อนของกระจกนิภัยเทมเปอร์เปรียบเทียบกับกระจกธรรมดาที่มีความหนา 5 มิลเมตรเท่ากัน
มีผลการทดสสอบดังต่อไปนี้
-กระจกนิภัยเทมเปอร์ สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ที่ค่าความแตกต่างของอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 170 องศาเซลเซียส 
และจะเริ่มแตกทั้งหมดเมื่ออุณหภูมิสูงถึงประมาณ 220 องศาเซลเซืยส
 
-กระจกธรรมดาสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ที่ค่าความแตกต่างของอุณหภูมิเพียงประมาณ 60 องศาเซลเซียส
และจะแตกทั้งหมดเมื่อค่าความแตกเมื่อค่าของอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงประมาณ 100 องศาเซลเซียส
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)จุดอ่อนของกระจกนิรภัยเทมเปอร์คือ แรงที่กระทำเป็นจุด หากมีการกระแทกโดยวัตถุที่มีมุมแหลม ซึ่งทำให้เกิดการตัดลึกเข้า
ไปภายในผิวกระจก ทำให้ชั้นแรงอัดถูกทำลาย ความสมดุลภายในเนื้อกระจกก็จะถูกทำลาย
2)กระจกนิรภัยเทมเปอร์สามารถคงรูปร่างได้ด้วยความสมดุลของแรงอัดและแรงดึง ดังนั้นเมื่อนำกระจกชนิดนี้มาใช้งานจะต้อง
ไม่มีการเจาะรู บากหรือตัดแต่งในภายหลังโดยเด็ดขาด
3)ส่วนของกระจกนิภัยเทมเปอร์ที่มีการเจาะรู พ่นทราย หรือทำเครื่องหมายใดๆจะมีความเปราะบางมากกว่าส่วนอื่นๆ
4)ไม่ควรยึดกระจกกับโลหะโดยตรง ควรมียางหรือวัตถุอื่นมารองรับ
5)ผิวกระจกนิรภัยเทมเปอร์จะเป็นคลื่นมากกว่ากระจกธรรมดา
 
กระจกฮีตสเตรงเทน (Heat Strengthen Glass)
กระจกฮีตสเตรงเทน เป็นกระจกที่ได้จากกระบวนการผลิตที่คล้ายกับกระจกนิภัยเทมเปอร์ แต่ต่างกันที่กระจกฮีตสเตรงเทน
จะปล่อยให้กระจกเย็นตัวลงอย่างช้าๆ จึงมีความแข็งแรงกว่ากระจกนิภัยเทมเปอร์
 
คุณสมบัติ
1)เป็นกระจกกึ่งนิรภัย มีคุณสมบัติพิเศษคือ แข็งแกร่งกว่ากระจกธรรมดาประมาณ 2 เท่า
2)เหมาะสำหรับการป้องกันการแตกของกระจกจากความร้อน
3)ลักษณะการแตกของกระจกชนิดนี้ จะแตกเป็นแผ่นเหมือนกระจกธรรมดา
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)ในการติดตั้งกระจกกับโครงสร้างอาคารสูงสามารถใช้แทนกระจกธรรมดาโดยลดความหนาของกระจกลง
2)ใช้กับสถานที่ที่ต้องเผชิญกับภาวะที่มีความร้อนสูงกว่าปกติ
3)ใช้กับผนังอาคารและหน้าต่างที่มีแรงอัดลมสูง
4)ใช้กับสถานที่ที่ต้องการใช้กระจกที่มีความแข็งแรงและปลอดภัยสูงกว่าการใช้กระจกธรรมดา
5)ใช้กับห้องโชว์ หรือตู้โชว์สินค้าที่ต้องทนต่อแรงกระแทกในการใช้งาน
 
กระจกเคลือบผิว (Surface Coated Glass)
ตารางแสดงคุณสมบัติเปรียบเทียบระหว่างกระจกเคลือบผิวที่ใช้กรรมวิธีในการเคลือบโลหะออกไซด์
กระบวนการเคลือบแบบสูญญากาศ  
-เป็นกระบวนการเคลือบกระจกแบบออฟไลน์(off-line)แยกจากกระบวนการผลิตกระจกแผ่น
-ในกรณีที่ต้องการทำเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์หรือ กระจกฮีตสเตรงเทนต้องทำก่อนที่จะนำกระจกไปเคลือบ
-สีของกระจกเคลือบมีให้เลือกมากมาย เนื่องจากโลหะออกไซด์ที่ใช้เคลือบมีมากชนิด
-การติดตั้งควรนำด้านที่เคลือบไว้ในตัวอาคาร-ทนต่อรอยขีดข่วนได้น้อยกว่า
-อายุการจัดเก็บกระจกสั้นกว่า
 
กระบวนการเคลือบแบบไพโรลิทิค
-เป็นการเคลือบกระจกแบบออนไลน์(on-line)ทำการเคลือบกระจกอยู่ภายในกระบวนการผลิตกระจกแผ่น
-สามารถนำกระจกที่เคลือบแล้วไปผ่านกระบวนการผลิตกระจกนิรภัยเทมเปอร์หรือกระจกฮีตสเตรงเทนได้
-สีของกระจกมีให้เลือกน้อยเนื่องจากโลหะออกไซด์มีจำกัด
-การติดตั้งสามารถนำด้านที่เคลือบออกภายนอก หรือหันหน้าเข้าด้านไหนก็ได้
-ความทนต่อรอยขีดข่วนมากกว่า
 
คุณสมบัติของกระจกเคลือบผิวกับการประหยัดผลังงาน
1)กระจกที่เลือกใช้ ควรให้มีค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทความร้อน และความร้อนที่ได้รับจากการสะท้อนแสง
 รวมทั้งค่าสัมประสิทธิ์การบังแดดที่น้อยที่สุดที่สามารถยอมรับได้
2)กระจกเคลือบผิวที่มีปริมาณการสะท้อนแสงสูงกว่า จะสามารถประหยัดพลังงานได้ดีกว่ากระจกที่มีปริมาณการสะท้อนแสงน้อยกว่า
วิธีการตรวจสอบคุณภาพของกระจกเคลือบผิว
1)ตรวจสอบรูบนผิวกระจกเคลือบ การตรวจสอบต้องให้กระจกที่จะตรวจสอบอยู่ห่างจากจุดสังเกต 1.80 เมตร ขนาดเส้นผ่านศูนย์
กลางของรูบนผิวเคลือบจะต้องมีขนาดไม่ใหญ่กว่า 1.50 มิลลิเมตร ในกรณีที่เป็นกลุ่มของรูบนผิวเคลือบที่มีขนาดเล็กกว่าที่กำหนด
อาจยอมให้มีได้ แต่ต้องไม่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดจากระยะสังเกตที่กำหนดไว้
2)การตรวจสอบการสะท้อนแสงและการส่งผ่านของแสง
-ความสม่ำเสมอของผิวเคลือบ การตรวจสอบจะต้องให้กระจกที่ทำการตรวจสอบอยู่ห่างจากผู้สังเกต 3 เมตร ตามมาตรฐานยอม
ให้มีความไม่สม่ำเสมอของผิวเคลือบได้บ้าง
-การเป็นคลื่นบนผิวสะท้อนสืบเนื่องจากปัจจัยหลายประการโดยเฉพาะกระจกเคลือบผิวที่เป็นกระจกฉนวนกันความร้อน กระจก
ฮีตสเตรงเทนและกระจกนิภัยเทมเปอร์ การเป็นคลื่นอันเกิดจากการมองเห็นจะไม่ถือว่าเป็นตำหนิของกระจก
 
วิธีตรวจสอบด้านเคลือบของกระจกเคลือบผิว
สำหรับวิธีการตรวจสอบว่าด้านใดของกระจกเคลือบผิวเป็นด้านที่เคลือบฟิล์มสามารถทำได้ดังนี้
1)ใช้วัสดุทึบแสงวางทำมุมเฉียงประมาณ 45 องศา บนผิวกระจก
2)สังเกตเงาที่เกิดขึ้นบนกระจกเคลือบผิว ถ้าวัตถุทึบแสงปรากฎเงาที่เห็นเป็นเงาเดียวจะเป็นด้านที่เคลือบสารสะท้อนรังสีอาทิตย์
ถ้าเงาที่เห็นเป็นสองเงาจะเป็นด้านที่ไม่ได้เคลือบ
กระจกเคลือบผิว แบ่งออกเป็น 2 ชนิดได้แก่ กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์ และกระจกที่มีสภาพการแผ่รังสีต่ำ
 
กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์ (Solar Reflective Glass)
กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์เป็นกระจกธรรมดาที่เคลือบด้วยโลหะออกไซด์ มีค่าการสะท้อนแสงค่อนข้างสูง ความโปร่งแสงค่อน
ข้างน้อย มีสีสันสวยงามหลายสีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเคลือบ และสีของกระจกที่เป็นวัตถุดิบที่นำมาเคลือบ
 
คุณสมบัติ
1) ทำให้แสงอาทิตย์และรังสีความร้อนผ่านเข้ามาในอาคารได้น้อย
2)ช่วยลดแสงที่แรงจ้าให้นุ่มนวลลง ทำให้เกิดความสบายตา
3)สร้างความเป็นส่วนตัวแก่คนภายในอาคาร เนื่องจากมองทะลุเข้ามาในตัวอาคารได้ลำบาก
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)ในการตัดกระจกควรมีการป้องกันผิวด้านที่เคลือบไว้เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
2)เมื่อมีการบิ่นหรือแตกบริเวณขอบกระจกให้ลบคมให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการแตกทั้งแผ่น
3)ป้องกันอย่าให้ซีเมนต์หรือปลาสเตอร์ติดบนกระจก เพราะจะทำอันตรายวัสดุเคลือบของกระจก
4)ด้านที่เคลือบวัสดุเคลือบควรอยู่ด้านในของอาคารเสมอ เพื่อไม่ให้วัสดุเคลือบสัมผัสมลภาวะภายนอก
5)อย่าเป่าความเย็นลงบนกระจกวางตู้ใกล้กระจกติดกระดาษหรือทาสีลงบนกระจกเพราะจะทำให้เกืดการแตกหักเนื่องจากการ
เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้ 
6)ควรจะอบฮีตสเตรงเทนหรือเทมเปอร์ เพื่อป้องกันปัญหาการแตกหักเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้
 
กระจกที่มีสภาพการแผ่รังสีต่ำ
กระจกที่มีสภาพการแผ่รังสีต่ำ เป็นกระจกเคลือบสารโลหะโดยมีโลหะเงินบริสุทธิ์เป็นองค์ประกอบสำคัญ
 
คุณสมบัติ
1)ป้องกันการถ่ายเทความร้อนผ่านกระจกได้ดี
2)ยอมให้แสงผ่านได้มากกว่ากระจกสะท้อนแสง
3)ช่วยสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลต(UV)ได้บางส่วน ปริมาณการสะท้อนขึ้นอยู่กับผู่ผลิต ทำให้ลดความเสียหาย
ซึ่งอาจเกิดกับพรมและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้ระดับหนึ่ง
4)ช่วยลดความจ้าของแสง
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)สารที่มีสภาพการแผ่รังสีต่ำเป็นสารที่ไวต่อการเสียหาย ดังนั้นจึงไม่ควรหันผิวกระจกด้านที่ฉาบนี้ไว้ด้านนอก
2)การบรรจุกาซเฉื่อยในช่องว่างระหว่างกระจกของกระจกรุ่นใหม่ๆแทนการใช้อากาศแห้ง จะช่วยเพิ่มความเป็นฉนวนให้กับกระจกได้ดี
 
กระจกดัดแปลง (Processed Glass)
กระจกดัดแปลงเป็นกระจกที่นำมาดัดแปลงด้วยกระบวนการต่างๆเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1.กระจกฉนวนกันความร้อน (Insulated Glass)
กระจกฉนวนกันความร้อนผลิตโดยการนำกระจกอย่างน้อย 2 แผ่น ตัดให้ได้ขนาดตามต้องการมาประกบกันโดยมีอลูมิเนียมซึ่ง
บรรจุสารดูดซึมความชื้นคั่นกลาง หลังจากนั้นจะปิดรอยที่ขอบกระจก ผลก็คือ อากาศภายในช่องระหว่างกระจกจะกลายเป็นอากาศที่แห้งไม่มีความชื้นเหลืออยู่ 
ซึ่งมีคุณสมบัติในการกันความร้อน
 
คุณสมบัติ
1)ป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้ามาในอาคาร ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ
2)ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกอาคารได้ดีกว่ากระจกธรรมดา
3)สามารถปรับแรงดันลมได้เพิ่มขึ้น
4)ให้ความปลอดภัยในอาคารในกรณีที่ใช้กระจกนิภัยเทมเปอร์ หรือกระจกนิรภัยหลายชั้นมาผลิตเป็นกระจกฉนวนกันความร้อน
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)ควรใช้ซิริโคนสำหรับกระจกที่เป็นโครงสร้างเท่านั้น ส่วนกระจกที่เป็นช่องหน้าต่างแบบดั้งเดิม สามารถใช้โพลีซัลไฟด์ซิลิโคนได้
2)การหักงอของอลูมิเนียมสเปเซอร์ หรือสารเคมีที่ใช้ในการเชื่อมต่อกระจก มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของกระจกทั้งสิ้น
 
2.กระจกฮีตมิเรอร์ (Heat Mirror)
ลักษณะของกระจกฮีตมิเรอร์เป็นระบบของกระจกสองชั้นที่เคลือบสารที่มีสภาพการแผ่รังสีต่ำทั้ง 2 ด้านของฟิล์มที่อยู่ระหว่าาง
ช่องอากาศ โดยที่ช่องว่างอากาศทั้งสองข้างจะกลายเป็นช่องว่างอากาศสะท้อนรังสี
 
คุณสมบัติ
1)สามารถสะท้อนความร้อนออกไปจากกระจกได้มากถึงประมาณ 80% หรือยอมให้ความร้อนส่งผ่านเข้ามาเพียง 10% 
ที่เหลืออยู่ 10% จะถูกดูดกลืนเข้าไปในกระจก
2)ยอมให้แสงสว่างผ่านเข้ามาได้ดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้องค์ประกอบของกระจกและฟิล์ม
3)ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต โดยสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตประมาณ 98%
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)ต้องระวังไม่ให้วัสดุยาแนวเกิดความเสียหาย มิฉะนั้นความชื้นอาจแทรกซึมเข้าไปทำให้กระจกเสื่อมประสิทธิภาพได้
2)ในการติดตั้งระมัดระวังผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลต เนื่องจากจะทำให้วัสดุยาแนวเสื่อมสภาพได้
3)ไม่สามารถปรับแต่งขนาดของกระจกภายหลังประกอบได้ ดังนั้นจะต้องวัดและตัดให้ได้ขนาดตรงกับการนำไปใช้เท่านั้น
4)การติดตั้งควรระมัดระวังไม่หันกระจกผิดด้านเพราะจะทำให้คุณสมบัติของกระจกต่ำลง
 
กระจกฮีตสต็อป(Heat Stop)
กระจกฮีตสต็อปมีลักษณะเป็นกระจกสองชั้นประกอบขึ้นด้วยกระจกสะท้อนแสงที่เคลือบด้วยสารที่มีสภาพการแผ่รังสีต่ำ
เป็นกระจกด้านนอก และด้านในใช้กระจกใส สารที่เคลือบนั้น สามารถป้องกันความร้อนอินฟาเรดให้ผ่านเข้ามาได้เพียง 5% 
ช่องว่างตรงกลางใส่ก๊าซอาร์กอน
 
คุณสมบัติ
1)สามารถสะท้อนความร้อนออกไปจากกระจกได้มาก
2)ยอมให้แสงสว่างผ่านกระจกเข้ามามากถึงประมาณ 60% 
3)ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต โดยสะท้อนรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้ประมาณ 95 %
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน 
1)ต้องระวังไม่ให้วัสดุยาแนวเกิดความเสียหาย มิฉะนั้นความชื้นอาจแทรกซึมเข้าไปทำให้กระจกเสื่อมประสิทธิภาพได้
2)ไม่สามารถปรับแต่งขนาดของกระจกภายหลังประกอบได้
3)การติดตั้งไม่ควรหันกระจกผิดด้านเพราะจะทำให้คุณสมบัติของกระจกต่ำลง
4.กระจกนิรภัยหลายชั้นเป็นการนำกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไป มาผนึกเข้าด้วยกัน โดยมีแผ่นฟิล์มโพลีไวนิลนิวทิเรต 
ที่เหนียวและแข็งแรงซ้อนอยู่ระหว่างกลาง ทำหน้าที่ยึดกระจกให้ติดกัน เมื่อกระจกชนิดนี้ถูกกระแทกจนแตก 
แผ่นฟิล์มโพลีไวนิลบิวทิเรตจะช่วยยึดไม่ให้เศษกระจกหลุดกระจาย จะมีเพียงรอยแตกหรือรอยร้าวคล้ายใยแมงมุมเท่านั้น
 
คุณสมบัติ
1)การใช้กระจกนิรภัยหลายชั้น สามารถช่วยลดการบาดเจ็บจากกระจกได้
2)ป้องกันการทะลุทะลวง เนื่องจากการแตกและการบุกรุกได้
3)ช่วยลดเสียงรบกวน และลดการก้องของเสียงได้ดี
4)ช่วยในการประหยัดพลังงานไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศ
5)แผ่นฟิล์มในกระจกนิรภัยหลายชั้นช่วยในการลดรังสีอัลตราไวโอเลต
 
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)เนื่องจากฟิล์มโพลีไวนิลบิวทิเลต มีคุณสมบัตในการอมความร้อน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาการแตกร้าว 
เนื่องจากการสะสมความร้อน จึงไม่ควรเลือกกระจกต่อไปนี้เข้ามาผนึกเข้าด้วยกัน
-กระจกสีตัดแสงผนึกกับกระจกสีตัดแสง
-กระจกสีตัดแสงเสริมลวดผนึกกับกระจกแผ่นเรียบ
-กระจกสะท้อนแสงผนึกกับกระจกเสริมลวด
2)มีความแข็งแรงต่อแรงอัดของลมน้อยกว่ากระจกธรรมดาที่ความหนาเท่ากัน
3)เมื่อนำกระจกนิภัยเทมเปอร์มาผนึกเข้าด้วยกันควรใช้แผ่นฟิล์มที่ความหนาไม่ต่ำกว่า 0.7 มิลิเมตรเป็นตัวยึดกระจก เพื่อป้อง
กันการเกิดฟองอากาศเนื่องจากผิวกระจกไม่เรียบ
4)ไม่ควรใช้วัสดุยาแนวชนิดซิลิคอน ออกไซด์ หรือวัสดุยาแนวที่มี่สวนผสมของสารละลายอืนทรีย์เนื่องจากจะทำให้เกิดผลเสียต่อฟิล์ม
5) ควรมีการเคลือสารกันน้ำ บริเวรขอบกระจก เพื่อป้องกันความเสียหายของแผ่นฟิล์ม
6)เมื่ออุณหภูมิของกระจกนิภัยหลายชั้นเพิ่มสูงขึ้นไปถึงระดับหนึ่งคือ 170 องศาฟาเรนไฮต์ การสะสมความร้อนภายในจะสูงขึ้น
ความสามารถของฟิล์มในการยึดเกาะกระจกจะลดลง
 
1.กระจกเงา(Mirror)
กระจกเงาที่ดีควรผลิตจากกระจกใส และมีคุณภาพสูง จึงจะให้ภาพที่แจ่มชัดเหมือนจริงไม่บิดเบี้ยวหลอกตา
ผ่านกรรมวิธีเคลือบ เงาด้วยเครื่องจักร 4 ขั้นตอนคือ
1)เครือบวัสดุเงิน(Silvery Coating)
2)เคลือวัสดุทองแดงบริสุทธิ์(Pure Copper Coating)
3)เคลือบวัสดุอย่างดีชั้นแรก(1 st Layer High Quality Colour Coating)
4)เคลือบวัสดุอย่างดีชั้นที่ 2(2 st Layer High Quality Colour Coating)
 
คุณสมบัติ
1)เหมาะสำหรับการตกแต่งภายใน โดยเฉพาะกระจกเงาใสซึ่งจะให้บรรยากาศภายในห้องที่สดใส
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายใน ทำให้มีบรรยากาศที่น่าสนใจ
2)หากจัดวางอย่างมีแบบแผน จะสามารถสะท้อนภาพของพื้นที่ได้หลายรูปแบบช่วยเพิ่มพื้นที่สายตาและลดความคับแคบของห้องได้
3.กระจกลวดลาย(Pattern Glass)
กระจกลวดลาย ผลิตโดยกระจกที่ยังไม่แข็งตัวเข้าไปสู่แถวของลูกกลิ้ง เพื่อให้ได้ความหนาที่ต้องการ และพิมลวดลายซึ่งติดกับ
ลูกกลิ้งลงบนผิวด้านใดด้านหนึ่งของกระจก หรือทั้ง 2 ด้าน
 
คุณสมบัติ
กระจกลวดลายมีคุณสมบัติโปร่งแสงแต่ไม่โปร่งใส จึงทำให้เกิดภาพที่นุ่มนวล แต่อาจไม่ชัดเจนนัก
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)เนื่องจากกระจกลวดลายมีความลึกของเนื้อกระจกไม่สม่ำสมเอกัน จึงไม่เหมาะที่จะนำมาผลิตเป็นกระจกนิภัยเทมเปอร์
2)ความแข็งแรงและความคงทนของกระจกมีน้อยกว่า 1 ใน 3 ของกระจกใสที่มีความหนาเดียวกัน เนื่องจากความไม่เรียบของกระจก
3.กระจกเสริมลวด (Wired Glass)
กระจกเสริมลวดผลิตโดยการใส่แผงตาข่ายลวดลงในกระจกขณะที่กระจกหลอมเหลว เพื่อเป็นการเพิ่มการแข็งแรงให้กับกระจก
แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ตามลวดลายของแบบตาข่ายดังนี้
1)ลายข้าวหลามตัด(Diamond-Shaped Pattern or Misco)
2)ลายสี่เหลี่ยม(Baroque Pattern)
3)ลายหกเหลี่ยม(Hexagonal Pattern)
4)ลายแนวตั้ง(Pinstipe Pattern)
คุณสมบัติ
1)มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ จึงมักใช้เป็นกระจกป้องกันการโจรกรรม
2)แตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ มีความคม
ข้อควรพิจารณาในการใช้งาน
1)เนื่องจากกระจกเสริมลวดจะแตกออกเป็นชิ้นเล็กๆ ที่มีความคม เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคาร 
หรือในต่ำแหน่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัยและคนทั่วไปได้
2)กระจกเสริมลวดเป็นกระจกที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ป้องกันการโจรกรรม ดังนั้นจึงไม่เน้นการออกแบบเพื่อความสวยงาม
 
 
ช่างประตูกระจกเชียงราย
ช่างประตูกระจกเชียงใหม่
ช่างประตูกระจกน่าน
ช่างประตูกระจกพะเยา
ช่างประตูกระจกแพร่
ช่างประตูกระจกแม่ฮ่องสอน
ช่างประตูกระจกลำปาง
ช่างประตูกระจกลำพูน
ช่างประตูกระจกอุตรดิตถ์
ช่างประตูกระจกกาฬสินธุ์
ช่างประตูกระจกขอนแก่น
ช่างประตูกระจกชัยภูมิ
ช่างประตูกระจกนครพนม
ช่างประตูกระจกนครราชสีมา
ช่างประตูกระจกบึงกาฬ
ช่างประตูกระจกบุรีรัมย์
ช่างประตูกระจกมหาสารคาม
ช่างประตูกระจกมุกดาหาร
ช่างประตูกระจกยโสธร
ช่างประตูกระจกร้อยเอ็ด
ช่างประตูกระจกเลย
ช่างประตูกระจกสกลนคร
ช่างประตูกระจกสุรินทร์
ช่างประตูกระจกศรีสะเกษ
ช่างประตูกระจกหนองคาย
ช่างประตูกระจกหนองบัวลำภู
ช่างประตูกระจกอุดรธานี
ช่างประตูกระจกอุบลราชธานี
ช่างประตูกระจกอำนาจเจริญ
ช่างประตูกระจกกำแพงเพชร
ช่างประตูกระจกชัยนาท
ช่างประตูกระจกนครนายก
ช่างประตูกระจกนครปฐม
ช่างประตูกระจกนครสวรรค์
ช่างประตูกระจกนนทบุรี
ช่างประตูกระจกปทุมธานี
ช่างประตูกระจกพระนครศรีอยุธยา
ช่างประตูกระจกพิจิตร
ช่างประตูกระจกพิษณุโลก
ช่างประตูกระจกเพชรบูรณ์
ช่างประตูกระจกลพบุรี
ช่างประตูกระจกสมุทรปราการ
ช่างประตูกระจกสมุทรสงคราม
ช่างประตูกระจกสมุทรสาคร
ช่างประตูกระจกสิงห์บุรี
ช่างประตูกระจกสุโขทัย
ช่างประตูกระจกสุพรรณบุรี
ช่างประตูกระจกสระบุรี
ช่างประตูกระจกอ่างทอง
ช่างประตูกระจกอุทัยธานี
ช่างประตูกระจกจันทบุรี
ช่างประตูกระจกฉะเชิงเทรา
ช่างประตูกระจกชลบุรี
ช่างประตูกระจกตราด
ช่างประตูกระจกปราจีนบุรี
ช่างประตูกระจกระยอง
ช่างประตูกระจกสระแก้ว
ช่างประตูกระจกกาญจนบุรี
ช่างประตูกระจกตาก
ช่างประตูกระจกประจวบคีรีขันธ์
ช่างประตูกระจกเพชรบุรี
ช่างประตูกระจกราชบุรี
ช่างประตูกระจกกระบี่
ช่างประตูกระจกชุมพร
ช่างประตูกระจกตรัง
ช่างประตูกระจกนครศรีธรรมราช
ช่างประตูกระจกนราธิวาส
ช่างประตูกระจกปัตตานี
ช่างประตูกระจกพังงา
ช่างประตูกระจกพัทลุง
ช่างประตูกระจกภูเก็ต
ช่างประตูกระจกระนอง
ช่างประตูกระจกสตูล
ช่างประตูกระจกสงขลา
ช่างประตูกระจกสุราษฎร์ธานี
ช่างประตูกระจกยะลา
ช่างประตูกระจกกรุงเทพมหานคร

ช่างประตูกระจกคลองสาน
ช่างประตูกระจกคลองสามวา
ช่างประตูกระจกคลองเตย
ช่างประตูกระจกคันนายาว
ช่างประตูกระจกจอมทอง
ช่างประตูกระจกดอนเมือง
ช่างประตูกระจกดินแดง
ช่างประตูกระจกดุสิต
ช่างประตูกระจกตลิ่งชัน
ช่างประตูกระจกทวีวัฒนา
ช่างประตูกระจกทุ่งครุ
ช่างประตูกระจกธนบุรี
ช่างประตูกระจกบางกอกน้อย
ช่างประตูกระจกบางกอกใหญ่
ช่างประตูกระจกบางกะปิ
ช่างประตูกระจกบางคอแหลม
ช่างประตูกระจกบางซื่อ
ช่างประตูกระจกบางนา
ช่างประตูกระจกบางพลัด
ช่างประตูกระจกบางรัก
ช่างประตูกระจกบางเขน
ช่างประตูกระจกบางแค
ช่างประตูกระจกบึงกุ่ม
ช่างประตูกระจกปทุมวัน
ช่างประตูกระจกประเวศ
ช่างประตูกระจกป้อมปราบศัตรูพ่าย
ช่างประตูกระจกพญาไท
ช่างประตูกระจกพระนคร
ช่างประตูกระจกพระโขนง
ช่างประตูกระจกภาษีเจริญ
ช่างประตูกระจกมีนบุรี
ช่างประตูกระจกยานนาวา
ช่างประตูกระจกราชเทวี
ช่างประตูกระจกราษฎร์บูรณะ
ช่างประตูกระจกลาดกระบัง
ช่างประตูกระจกลาดพร้าว
ช่างประตูกระจกวังทองหลาง
ช่างประตูกระจกวัฒนา
ช่างประตูกระจกสวนหลวง
ช่างประตูกระจกสะพานสูง
ช่างประตูกระจกสัมพันธวงศ์
ช่างประตูกระจกสาทร
ช่างประตูกระจกสายไหม
ช่างประตูกระจกหนองจอก
ช่างประตูกระจกหนองแขม
ช่างประตูกระจกหลักสี่
ช่างประตูกระจกห้วยขวาง
ช่างประตูกระจกเมืองนครปฐม
ช่างประตูกระจกกำแพงแสน
ช่างประตูกระจกดอนตูม
ช่างประตูกระจกนครชัยศรี
ช่างประตูกระจกบางเลน
ช่างประตูกระจกพุทธมณฑล
ช่างประตูกระจกสามพราน
ช่างประตูกระจกเมืองนนทบุรี
ช่างประตูกระจกบางกรวย
ช่างประตูกระจกบางบัวทอง
ช่างประตูกระจกบางใหญ่
ช่างประตูกระจกปากเกร็ด
ช่างประตูกระจกไทรน้อย
ช่างประตูกระจกเมืองปทุมธานี
ช่างประตูกระจกคลองหลวง
ช่างประตูกระจกธัญบุรี
ช่างประตูกระจกลาดหลุมแก้ว
ช่างประตูกระจกลำลูกกา
ช่างประตูกระจกสามโคก
ช่างประตูกระจกหนองเสือ
ช่างประตูกระจกเมืองสมุทรปราการ
ช่างประตูกระจกบางพลี
ช่างประตูกระจกบางเสาธง
ช่างประตูกระจกพระประแดง
ช่างประตูกระจกพระสมุทรเจดีย์
ช่างประตูกระจกเมืองระยอง
ช่างประตูกระจกนิคมพัฒนา
ช่างประตูกระจกเขาชะเมา
ช่างประตูกระจกบ้านฉาง
ช่างประตูกระจกปลวกแดง
ช่างประตูกระจกวังจันทร์
ช่างประตูกระจกแกลง
ช่างประตูกระจกเมืองชลบุรี
ช่างประตูกระจกเกาะจันทร์
ช่างประตูกระจกบางละมุง
ช่างประตูกระจกบ่อทอง
ช่างประตูกระจกบ้านบึง
ช่างประตูกระจกพนัสนิคม
ช่างประตูกระจกพานทอง
ช่างประตูกระจกศรีราชา
ช่างประตูกระจกสัตหีบ
ช่างประตูกระจกหนองใหญ่
ช่างประตูกระจกเกาะสีชัง
ช่างประตูกระจกเมืองสมุทรสาคร
ช่างประตูกระจกกระทุ่มแบน
ช่างประตูกระจกบ้านแพ้ว
ช่างประตูกระจกมหาชัย
ช่างประตูกระจกเมืองสมุทร
ช่างประตูกระจกอัมพวา
ช่างประตูกระจกบางคนที
ช่างประตูกระจกเมืองราชบุรี
ช่างประตูกระจกบ้านคา
ช่างประตูกระจกจอมบึง
ช่างประตูกระจกดำเนินสะดวก
ช่างประตูกระจกบางแพ
ช่างประตูกระจกบ้านโป่ง
ช่างประตูกระจกปากท่อ
ช่างประตูกระจกวัดเพลง
ช่างประตูกระจกสวนผึ้ง
ช่างประตูกระจกโพธาราม
ช่างประตูกระจกเมืองฉะเชิงเทรา
ช่างประตูกระจกคลองเขื่อน
ช่างประตูกระจกท่าตะเกียบ
ช่างประตูกระจกบางคล้า
ช่างประตูกระจกบางน้ำเปรี้ยว
ช่างประตูกระจกบางปะกง
ช่างประตูกระจกบ้านโพธิ์
ช่างประตูกระจกพนมสารคาม
ช่างประตูกระจกราชสาส์น
ช่างประตูกระจกสนามชัยเขต
ช่างประตูกระจกแปลงยาว
ช่างประตูกระจกเมืองนครนายก
ช่างประตูกระจกปากพลี
ช่างประตูกระจกบ้านนา
ช่างประตูกระจกองครักษ์
Engine by shopup.com